ส่งซ่อมรถต้องเตรียมสภาพรถอย่างไร ควรเช็คอะไรก่อนส่งซ่อมบ้าง?
ปกติเวลารถเสีย ต้องเข้าซ่อมผู้ขับขี่มีการเตรียมความพร้อมอย่างไรบ้าง ใครที่มีแพลนจะส่งซ่อมรถ หรือเช็คสภาพรถยนต์ที่ศูนย์บริการ วันนี้เรามีวิธีเตรียมความพร้อมก่อนส่งรถเข้าซ่อมมาฝาก มาดูกันว่าจะส่งซ่อมรถต้องเตรียมสภาพรถอย่างไร ควรเช็คอะไรก่อนส่งซ่อมบ้าง?
ส่งซ่อมรถต้องเตรียมสภาพรถอย่างไร?
- เช็คอาการและจดบันทึกเอาไว้
เมื่อรถเสีย หรือผิดปกติต้องส่งซ่อม ก่อนส่งซ่อมควรเช็คอาการและจดบันทึกเอาไว้เบื้องต้น เมื่อช่างสอบถามอาการจะได้บอกถูก เพราะบางทีอาการบางอย่างมักเป็นๆ หายๆ ทำให้ช่างซ่อมได้ไม่ตรงจุด รวมถึงยังช่วยให้ช่างวิเคราะห์หาสาเหตุได้อย่างถูกต้องโดยไม่ต้องเสียเวลามาก
- ตรวจเช็คน้ำมันรถยนต์
ก่อนส่งซ่อมรถควรตรวจเช็คน้ำมันเชื้อเพลิงก่อน ว่ามีเพียงพอสำหรับการทดสอบหรือไม่ เพราะการซ่อมอาจจะต้องมีการสตาร์ท การทดสอบรถด้วย
- เก็บของมีค่าออกจากรถให้หมด
เพื่อป้องกันไม่ให้ของมีค่าสูญหาย ควรเก็บของมีค่าทุกอย่างออกให้หมดก่อนจะส่งรถซ่อม ไม่ว่าจะเป็น เงิน เครื่องประดับ เสื้อผ้า รองเท้า ทางที่ดีอะไรที่เคลียร์ออกจากรถได้ก็ควรเคลียร์ นอกจากจะป้องกันการสูญหายยังทำให้ช่างทำงานได้ง่ายขึ้นด้วย รวมถึงควรเก็บเอกสารต่างๆ ให้มิดชิด ถ้าเป็นเอกสารสำคัญก็ควรเอาออกจากรถ
หลังซ่อมรถเสร็จ ควรตรวจเช็คอะไรบ้าง?
ก่อนส่งซ่อมรถควรเตรียมสภาพรถให้พร้อม เมื่อซ่อมเสร็จก็ต้องตรวจเช็คความเรียบร้อยด้วยเหมือนกัน ไปดูกันว่าหลังจากซ่อมรถเสร็จแล้ว ควรตรวจเช็คอะไรบ้าง?
- ตรวจเช็ครายการที่ซ่อมรถ
ทุกครั้งที่ซ่อมรถ หรือนำรถเข้าอู่ จะมีใบรายการส่งซ่อมอยู่แล้ว ก่อนรับรถก็ตรวจเช็คดูทีละรายการว่าเป็นไปตามข้อตกลงที่แจ้งช่างไว้หรือไม่ มีการซ่อมครบตามที่ตกลงไว้หรือเปล่า เพราะบางครั้งอู่ที่มีคนส่งซ่อมรถจำนวนมากๆ อาจเกิดการตกหล่นได้ รวมถึงตรวจสอบค่าใช้จ่ายแต่ละรายการด้วย ระวังจะมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ งอกออกมา
- ตรวจสอบสภาพรถทั้งภายในและภายนอก
เมื่อซ่อมรถเสร็จแล้ว ควรตรวจสภาพรถให้เรียบร้อยก่อนทั้งภายในและภายนอก หากเป็นการซ่อมสีควรดูว่าสีตรงกับสีเดิมหรือไม่ โดยให้ดูจากหลายๆ มุมเพราะบางทีแสงอาจทำให้สีผิดเพี้ยน ส่วนภายในควรสตาร์ทรถ เพื่อตรวจเช็คระบบต่างๆ เช่น ระบบไฟ ระบบแอร์ ว่าทำงานปกติหรือไม่
- ตรวจเช็คอุปกรณ์ภายในรถ
ส่วนใหญ่ในรถจะมีอุปกรณ์บางอย่างที่มีน้ำหนักเยอะ ขนาดใหญ่ ทำให้ไม่สะดวกเอาออกจากรถก่อนส่งซ่อม เช่น ยางอะไหล่ อุปกรณ์เครื่องมือช่าง ก่อนออกจากอู่ควรเช็คดูก่อนว่าอุปกรณ์เหล่านั้นยังอยู่ครบหรือไม่ ถ้าหายไปจะได้ทักท้วงได้ทันที
- ทดลองขับขี่จริง
เมื่อตรวจเช็คสภาพเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องทดลองขับจริงด้วย เพราะบางทีความผิดปกติบางอย่างไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ต้องทดลองขับถึงจะรู้ เช่น มีเสียงที่ผิดปกติขณะขับขี่ ความสมดุลของล้อ หรือความผิดปกติอื่นๆ ที่รู้สึกได้ จะได้ให้อู่แก้ไขให้ทันที ไม่อย่างนั้นคุณอาจจะต้องเสียเงินซ่อมใหม่อีกรอบก็ได้
หากตรวจสอบทุกอย่างเรียบร้อยแล้วไม่พบความผิดปกติใดๆ ก็เซ็นรับรถยนต์ได้เลย
เพื่อการซ่อมที่มีคุณภาพ ควรเลือกอู่ที่เชื่อถือได้ หรือมีชื่อเสียงหน่อย เพื่อเป็นการการันตรีคุณภาพในการซ่อม อย่างน้อยๆ ก็จะทำให้คุณมั่นใจได้รับดับหนึ่งว่าจะได้งานซ่อมที่มีคุณภาพ ไม่ต้องกลับไปซ่อมใหม่ และที่สำคัญควรเตรียมสภาพรถให้พร้อมก่อนส่งซ่อม เพื่อความรวดเร็ว แต่สำหรับใครที่กังวลเรื่องอู่ซ่อม กลัวไม่ได้คุณภาพ หรือไม่รู้จะซ่อมรถที่อู่ไหนดี ปัญหานี้จะหมดไปหากคุณซื้อประกันรถยนต์ชั้น 2+ หรือประกันรถยนต์ชั้นอื่นๆ ผ่าน Rabbit Care เพราะเรามีศูนย์ซ่อมครอบคลุมทั่วไทย รับประกันด้านคุณภาพ อยากซ่อมรถแบบไหน ที่ไหนคุณเลือกได้เอง สนใจซื้อประกันรถยนต์ชั้น 2+ สามารถเข้าไปได้ที่ www.rabbitcare.com